22 พฤษภาคม วันที่พ่อจะมาถึงจีน ต้องเกริ่นท้าวความก่อนว่า ตอนเด็กๆลูกๆจะไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้พ่อ เนื่องจากพ่อในตอนนั้นทำงานหนักมาก พวกเราไม่เคยเห็นหน้าพ่อในวันธรรมดาเพราะพ่อจะฝ่ารถติดออกไปก่อนเราตื่นและกลับเข้าบ้านเมื่อเราหลับแล้ว วันเดียวที่เราจะเห็นพ่อคือวันอาทิตย์ซึ่งพ่อจะนั่งเงียบๆกินข้าวอยู่หน้าทีวี (ซึ่งเรามาเรียนรู้ตอนอายุเท่าพ่อเมื่อวันนั้นว่า ชีวิตช่วงนี้ทำงานเหมือนเสียสติจริงงงงง) แล้วบรรดาลูกๆก็ไม่รู้จะเข้าใกล้ยังไงก็เลยหนีไปเล่นหลังบ้านกันหมด มีเรานี่แหละที่จะมานั่งกับพ่อทั้งในบ้านและบนรถเพราะเราเป็นเจ้าหนูจำไมแล้วพ่อเป็นอับดุลคือถามแล้วตอบได้ทุกเรื่อง ตั้งแต่พ่อๆๆใครคือพระนางสร้อยดอกหมาก มาจนถึงพ่อๆๆเงินเฟ้อคืออะไร พ่อตอบลูกสาวได้หมดทุกเรื่องค่าาาา
จากคำพูดนั้นเราก็เริ่มวางแผนทริปเพราะเรามีงานที่ต้องไปจีนอยู่แล้ว หารู้ไม่ว่าความพังพินาศกำลังมาเยือนคือ ทริปทำงาน "งอก" มาก่อนหน้าอีก 2 ทริป เราถูกส่งไปดูไบหนึ่งอาทิตย์ (อันนี้เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังวันหลังเจ้าค่ะ) กลับไทยหนึ่งอาทิตย์ ไปจีนล่วงหน้าเพื่อตรวจงานอีกสี่วัน กลับไทยมาห้าวัน แล้วถึงจะได้ไปทริปนี้เพื่อทำงานที่จีนตามแผนแรกอีกห้าวัน สรุปว่าน่วมมมมมยวบไปทั้งตัวก่อนจะได้เจอพ่อค่าาาาา คราวนี้ไอ้ความตื่นเต้นเตรียมตัวจะให้พ่อเดินทางมาเจอที่จีนด้วยตัวคนเดียวเลยโดนอดรีนาลีนดันให้พุ่งพล่านไปถึงขีดสุด เริ่มต้นด้วยคำถามที่ว่า "พ่อจะเอารถเข็นของผู้สูงอายุมั้ย เดี๋ยวเขาเซอร์วิสเข็นจาก check in ไปจนถึงเครื่องแล้วลงเครื่องไปถึง customs ที่จีนสวยๆเลยนะพ่อ" "เดี๋ยวถ่ายรูป immigration ฝั่งไทยฝั่งจีนแบบ step by step เลยนะพ่อ" "อันนี้รูปถ่ายจุดที่แนนจะมารับ เดินออกมาเลี้ยวซ้ายเท่านั้นนะพ่อ" โดยลืมไปว่า พ่อดิชั้นพูดจีนได้... ใช่ค่ะ...ดิชั้นพูดจีนไม่ได้ ยังรอดผ่านประเทศนี้ได้มาหลายปี พ่อพูดได้ จะห่วงไปทำไม 5555 พอถึงวันเครื่องลง ทุกอย่างก็ไปได้ดี น้องชายก็ไปส่งพ่อที่สุวรรณภูมิส่วนเราก็มารับพ่อที่สนามบินซั่งไห่ปู่ตงโดยสวัสดิภาพ ตัวเราเองเททุกอย่างฝากทุกคนที่จะกลับไทยเพื่อให้กระเป๋าเราเบาที่สุด อันสืบเนื่องมาจากว่า... ครั้งนี้เราอยากซึมซับความเป็นซั่งไห่แบบสมบูรณ์แบบ เราเลยตัดสินใจจองบ้านเก่าอายุร้อยกว่าปีจาก Airbnb แทน... แล้วมันดันอยู่ชั้นสาม และมันไม่มีลิฟต์ค่าาา! ถามคุณเจ้าของห้องก่อนจองว่า น้องคะ พี่จิแบกกระเป๋าขึ้นไหวใช่มั้ย น้องก็ระรื่นมาเลยว่า ได้สิคะคุณพี่ ไหวแน่นอนค่ะ เราก็คิดว่าเอาน่าๆ กระเป๋าเราใบนึงพ่อใบนึงเราต้องทำได้ ก็จัดไปค่ะ คราวนี้ความฮาก็เริ่มตั้งกะหาบ้านหลังนี้ให้เจอล่ะค่ะ เขาบอกว่าเป็นบ้านแต่จริงๆคือทาวน์เฮาส์โบราณที่อยู่กลางเมืองเซี่ยงไฮ้ คราวนี้ด้วยวิธีการสร้างแบบอุตสาหกรรมของเขา บ้านทุกหลังคือหน้าตาเดียวกันหมดเหมือนรูปด้านล่าง 555555 ภาพจาก https://randomwire.com/jingan-villa-shanghai/
คุณพระ! บันได้บ้านนี้จะให้คนแก่อยู่จริงๆเรอะ สิ่งที่เรียนมาจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ว่าด้วยเรื่องความชันของบันไดที่เหมาะสมคือขอให้ลืมไปสิ้นค่ะ บันไดชัน บันไดแคบ แผ่นบันไดแคบและมันปลาบจากการใช้งานร้อยกว่าปีที่ผ่านมา น้ำหนักกระเป๋าไม่ใช่ปัญหาแระ อาจจะตายจากการลื่นตกบันไดแทนค่ะ แง
รูปบนเวบเป็นไง ตัวจริงก็ตรงปกอย่างนั้นเลยค่า โคโลเนี่ลซั่งไห่สไตล์มาเต็มมากจริงๆ ก็ขอจบการรีวิวที่พักไว้แค่นี้ก่อนนะคะ นี่คือวันแรกที่ยังพาพ่อไปไม่ถึงเดอะบันเลย 555 ก็ติดตามวันแรกภาคสองต่อละกันค่าาาาาา
1 Comment
|
Categories
All
Archives |